จั่วหัวด้วยคำสามคำ ซึ่งจะเป็นคำที่อธิบายถึงเหตุการณ์การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกรอบ 4 ทีมสุดท้ายปี 2008-2009 คือการประทะกันของยักษ์ใหญ่ระหว่างทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี กับทีมเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ตัวแทนหนึ่งเดียวจากแดนกระทิงดุสเปน
บทที่ 1 ดราม่า
เกมส์นี้นัดแรกเตะที่แคมป์นูเสมอกันไป 0-0 ทำให้บาร์เซโลน่าต้องการชัยชนะให้ได้เพื่อที่จะได้ผ่านรอบต่อไป เกมส์ที่ผมดูในนัดนี้เป็นบาร์เซโลน่าแหล่ะครับที่ครองเกมส์ได้ดีกว่า ส่วนเชลซีจะอาศัยจังหวะพลาดของบาร์ซ่า แล้วโต้กลับขึ้นมา แต่ละครั้งที่เชลซีโต้กลับขึ้นมานั้นน่ากลัวทั้งนั้น เกมส์นี้เริ่มด้วยการนำของเชลซีจากการยิงอันสุดสวยของ มิกาเอล เอสเซียง (ลูกนี้เป็นลูกที่สมบูรณ์แบบจริงๆ) ซัดเข้าไปเต็ม ๆ 1 – 0 ส่วนบาร์เซโลน่ามาได้ลูกตีเสมอในนาทีที่ 93 จาก อินนิสต้า ลูกนี้ก็งามหยดย้อยไม่แพ้กัน
เหมือนสวรรค์จงใจกลั่นแกล้งเชลซีที่ถูกตีเสมอในช่วงทดเจ็บ ทำให้บาร์เซโลน่าเข้ารอบไปด้วยกฏประตูทีมเยือน ยัง ! แค่นี้ยังไม่สมกับคำว่าดราม่า เหตุการณ์ของเกมส์นี้ต้องเป็นที่พูดถึงกันไปอีกนานเท่านานจากการตัดสินผิดพลาดจากกรรมการชาวนอร์เวย์ ดูเหมือนกรรมการหัวเหม่งท่านนี้จะตามเกมส์ไม่ทัน
เชลซีมีโอกาสที่ได้ลูกจุดโทษประมาณ 4-5 ครั้ง แต่ถูกหัวเหม่งท่านนี้ปฏิเสธไปอย่างหน้าตาเฉย จังหวะก็เห็นกันโจ๊ะครึมๆ ว่าแฮนด์บอลมั่งแหล่ะ ฟาวล์มั่งแหล่ะ แต่กรรมการท่านนี้โบกมือแบะๆ บอกว่า ลุกขึ้นมาเห้ย ! อย่าสำออย
ผมว่าเชลซีในนั้นนี้เป็นทีมที่น่าสงสารอย่างยิ่งที่ต้องมาเจอยักษ์ใหญ่ แถมเจอกรรมการอย่างนี้อีก เห้อ เห็นใจแฟนเชลซีครับ
บทที่ 2 ดร็อกบา
ดรอกบาในนัดนี้เล่นได้ดีมากเลยครับ ขยันทุ่มเท เล่นเข้าขากับอเนลก้าได้ลงตัวจริงๆ เป็นคู่หน้าที่น่ากลัวมาก
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบกองหน้าผิวสีชาวไอวอรีโคสต์คนนี้มากครับ เพราะอะไรนะหรอ
- แข็งแรง ดุดัน
- ความเร็วนี่เอาไปเลย
- ฟรีคิกส์ก็ยิงได้นะเออ
- มีเซ็นส์ของกองหน้าได้เต็มเปี่ยม
- พอแล้วนึกไม่ออก
เมื่อถูกกรรมการหัวเหม่งปฏิเสธการได้ลูกโทษครั้งแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นผมก้โมโหอ่ะ อะไรวะ คนโดนดึงขนาดนี้ยังไม่เป่าอีก
แต่ผมผิดหวังกับกิริยาของกองหน้าท่านนี้มากเมื่อจบเกมส์ อะไรนะหรอ เชิญอ่านบทต่อไป
บทที่ 3 แจกฟัก
httpv://www.youtube.com/watch?v=S4Zw6wNDxR4&feature=related
ต่อจากบทที่แล้วที่กล่าวถึงดร็อกบา นั่นก็คือการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อเกมส์ที่เกิดขึ้นประหนึ่งกับว่าไม่ยอมรับคำตัดสิน ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ชี้หน้าด่ากรรมการ และที่เลวร้ายที่สุดคือการออกมาสบถกับกล้องที่กำลังถ่ายทอดสดด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาสม
ไม่รู้ว่าบ้านพี่แกปลูกเยอะหรือไง ถึงได้แจกฟักออกทางหน้าจอทีวีเยอะขนาดนี้ ขนาดผู้บรรยายภาษาอังกฤษยังตกใจกับคำที่ดร็อกบาได้ปล่อยออกมาจากปาก
นึกถึงเด็กๆ ผู้ที่คลั่งไคล้ในเกมส์ลูกหนัง กำลังนั่งดูเกมส์ทางทีวีแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันก็น่าหดหู่ครับกับกิริยาแบบนี้
แต่ถ้าที่สุดแล้วดร็อกบา ก้ได้ออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยเค้าอ้างว่าเป็นการควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
นักฟุตบอลส่วนใหญ่แจกฟักแฟงแตงโมกันทั้งนั้น แต่ผมไม่เคยเห็นใครแจกฟักแฟงแตงโมต่อหน้ากล้องอย่างนี้เลย ฮ่าๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เราก็ควรยอมรับคำตัดสินครับ พร้อมกับยอมรับกับผลสกอร์ที่เกิดขึ้น แต่มีแฟนเชลซีบางคนยังไม่รับความพ่ายแพ้ที่ได้เกิดขึ้น…
ปล. ผมจะบ่นไปทำไมเนี่ย ฮ่าๆ